จาระบีแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร ความแตกต่างของจาระบีแต่ละชนิดไม่ได้ขึ้นอยู่กับสี สีเป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแยกประเภทของจาระบีได้ง่ายขึ้น โดยแต่ละผู้ผลิตจะมีโทนสีที่แตกต่างกันและสารให้สีไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของจาระบี
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จาระบีมีความแตกต่างกัน คือ สารอุ้มน้ำมัน หรือ thickener ส่วนน้ำมันพื้นฐานทำหน้าที่ในการหล่อลื่น แต่สารอุ้มน้ำมันมีหน้าที่ทำให้จาระบีมีความคงตัว มีความลื่น และยึดเกาะส่วนผสมทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน สารอุ้มน้ำมันทำหน้าที่เปรียบเสมือน “ฟองน้ำ” ที่ช่วยอุ้มน้ำมันพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพเข้าไว้ด้วยกัน และยังช่วยลดการรั่วไหลและป้องกันความชื้นได้เป็นอย่างดี
ในบทความก่อนหน้านี้ได้มีการอธิบายถึง ประเภทของสารอุ้มน้ำมันที่นิยมใช้กันมากที่สุด 3 ประเภท ได้แก่ โพลียูเรีย ลิเธียม, ลิเธียม คอมเพล็กซ์ และ แคลเซียม ซัลโฟเนต ที่ผ่านมาจาระบีที่ใช้ส่วนผสมหลักเป็น ลิเธียม และ ลิเธียม คอมเพล็กซ์ เป็นจาระบีที่ได้รับความนิยมและครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามจากที่ได้เคยกล่าวไว้ถึงการขาดแคลนของลิเธียม ส่วนใหญ่ปัญหามาจากความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในแบตเตอรี่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานพาหนะไฟฟ้า เป็นต้น ส่งผลให้ราคาของลิเธียมพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ต้นทุนในการผลิตจาระบีมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
นอกจากเรื่องความเพียงพอต่อการใช้งานในอนาคตแล้ว ลิเธียมยังถูกตรวจสอบด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากมีความกังวลด้านพิษวิทยา ในยุโรปหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลได้เสนอให้จัดประเภทของลิเธียมว่าเป็น สารพิษหรือสารก่อมะเร็ง*
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้ใช้จาระบีในภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่กำลังมองหาตัวเลือกอื่น ที่ไม่ใช่จาระบีที่มีส่วนผสมของลิเธียม แต่ยังคงช่วยให้พวกเขาทำการผลิตได้อย่างต่อเนื่องและสามารถควบคุมต้นทุนในการผลิตได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณภาพของจาระบีมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์และเครื่องจักรในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น โดยส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีอายุการใช้งานนานขึ้น และสามารถทำงานได้ดีในสภาวะการทำงานที่หนักหน่วง จาระบีเป็นสารหล่อลื่นที่ช่วยในการปกป้อง แบริ่ง บูชชิ่ง และชิ้นส่วนอื่นๆ ที่มีการรับโหลดสูง เพราะฉะนั้นจาระบีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะในการผลิตให้กับเครื่องจักรได้สูงขึ้น
คาลเท็กซ์ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายปี จนได้พบว่า แคลเซียม ซัลโฟเนต เป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดในการนำมาทดแทนการใช้งานของจาระบีที่มีส่วนผสมของลิเธียมในปัจจุบัน ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าจาระบีที่ใช้ส่วนผสมของสารอุ้มน้ำมัน แคลเซียม ซัลโฟเนต มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า สามารถรับแรงโหลดและแรงดันสูงได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับสารอุ้มน้ำมันชนิดอื่นๆ และยังทนทานต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำงานได้ดีในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง และป้องกันน้ำได้ดี นอกจากนี้ จาระบีที่มีส่วนผสมของ แคลเซียม ซัลโฟเนต เข้ากันได้ดีกับ จาระบีประเภทลิเธียม ในขณะที่โพลียูเรียและสารอุ้มน้ำมันชนิดอื่นๆ เข้ากันไม่ได้กับผลิตภัณฑ์จาระบีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งหมดนี้พอสรุปได้ว่า ทำไมจาระบีประเภท แคลเซียม ซัลโฟเนต จึงเป็นจาระบีที่เติบโตเร็วที่สุด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก
คาลเท็กซ์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มจาระบีประเภท แคลเซียม ซัลโฟเนต ภายใต้ชื่อ Rykon® เป็นจาระบีเกรดพรีเมี่ยมประสิทธิภาพสูงสุด ให้การปกป้องเครื่องจักรที่ใช้งานหนักและต้องรับแรงกดสูง ถูกคิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานที่ต้องรับโหลดสูง และช่วยเพิ่ม "การยึดเกาะ" ปกป้องชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวของเครื่องจักร และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำงานได้ดีในสภาวะที่หนักหน่วง แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ด้วยประสิทธิภาพและความทนทานที่เหนือกว่า Rykon ช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการอัดจาระบี และช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาเกี่ยวกับลิเธียมและการขาดแคลนโพลียูเรียได้สร้างความวุ่นวายให้กับตลาดจาระบี คาลเท็กซ์มุ่งหวังที่จะคืนความมั่นคงให้กับลูกค้าด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มจาระบี ภายใต้ชื่อ Rykon จาระบีทางเลือกใหม่ ที่ถูกคิดข้นขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการและช่วยเพิ่มสมรรถนะในทุกอุตสาหกรรม ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พร้อมการให้บริการอย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้
Zach Sutton ทำงานให้กับเชฟรอนและมีบทบาทมากมายในบริษัท ปัจจุบัน Zach ดำรงตำแหน่ง Industrial and Services Sector Specialist in Americas Customer Experience organization บทบาทของ Zach คือการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในการใช้น้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรมและบริการของเชฟรอน เช่น โปรแกรม Chevron LubeWatch® และน้ำมันหล่อลื่นที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISOCLEAN® ก่อนร่วมงานกับเชฟรอน Zach เคยทำงานให้กับองค์กรหลายแห่ง โดยเฉพาะ Michelin North America ทำให้เขามีประสบการณ์ที่กว้างขวางในการขายผลิตภัณฑ์และการตลาด
ในปี 2000 Zach ได้สำเร็จการศึกษาจาก California State Universityg, Fresno
ด้วยปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต Bachelor of Science in Business Administration ด้านการตลาด