ในบทความก่อนหน้า เราได้เจาะลึกถึงสาเหตุของการเกิดคราบวานิช ในระบบน้ำมันอุตสาหกรรม เรารู้ว่าการเสื่อมสภาพของน้ำมันทำให้เกิดอนุภาคขนาดเล็กกว่าไมครอนซึ่งในที่สุดจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนและเกาะติดบนพื้นผิวของโลหะจนกลายเป็นวานิช หากปล่อยทิ้งไว้วานิชหล่านี้จะทำให้เครื่องจักรเกิดความเสียหายได้ เช่น การหยุดเดินเครื่องที่ส่งผลทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงขึ้นและสูญเสียรายได้ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็คือการยกเครื่องใหม่นั่นเอง
ค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาข้างต้นจะไม่เกิดขึ้น หากคุณขจัดคราบวานิชออกจากระบบอย่างมีเทคนิคและมีหลายวิธีที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการขจัดคราบวานิชออกจากพื้นผิวได้ดี วิธีหนึ่งคือการใช้ความร้อนเพื่อขจัดการเกิดวานิช เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้วานิชอ่อนตัวลง และบางส่วนจะละลายในน้ำมันจนกว่าจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันใหม่ แต่วานิชเจ้าปัญหาเหล่านี้จะยังคงอยู่ในน้ำมันและทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกได้
อีกวิธีหนึ่งคือการใช้สารเคมี ซึ่งจะไปช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มวานิชไว้ในน้ำมัน สารเคมีที่ช่วยขจัดวานิชชนิดนี้ ที่มีจำหน่ายแบ่งออกเป็น 3กลุ่ม ได้แก่:
นอกจากวิธีการใช้สารเคมีเติมลงในน้ำมันเพื่อขจัดคราบวานิชแล้ว ระบบการกรองยังถูกน้ำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้มีการใช้เทคโนโลยีการกรองที่นำเอาเทคโนโลยีหลายแบบมารวมกัน เช่น การกรองแบบละเอียด แบบไฟฟ้าสถิต การรวมประจุไฟฟ้าแบบคงตัว (balanced charge agglomeration) และเรซิ่นดูดซับ เพื่อขจัดสารก่อตัววานิชออกจากน้ำมัน แต่เทคโนโลยีเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันออกไปด้วย เช่น สารยับยั้งการเกิดโฟม สารป้องกันสนิม และสารรับแรงกดสูง
ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า แม้จะมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยขจัดคราบวานิชที่ให้ผลในระดับที่แตกต่างกัน แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็มีข้อเสียอยู่ไม่น้อย ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือการแยกตัวของน้ำ ความคงตัวต่อปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และการเข้ากันได้กับซีล ที่เชฟรอนเรากำลังคิดค้นหาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยขจัดคราบวานิชเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยการทดสอบผลิตภัณฑ์ตามสภาพการใช้งานจริงภาพใต้สภาวะที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งการหยุดทำงานของเครื่องจักรจะทำให้เกิดการสูญเสียและมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าของเราสามารถวางใจและเชื่อถือได้ เราจะมาแบ่งปันผลลัพธ์ของความพยายามนี้ในบทความเกี่ยวกับวานิชในครั้งถัดไป
พอล สไล เป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคให้แก่ บริษัท เชฟรอน พอลจบการศึกษาจาก วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาวิศวกรรมเครื่องกล และประกาศนียบัตรนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการทางคลินิก (CLS) และ OMA-1 ในสาขาน้ำมันหล่อลื่น (BS in Mechanical Engineering and CLS and OMA-1 certifications in the lubricants field) พอลมีประสบการณการในการทำงาน 13 ปี ที่แผนกเครื่องยนต์ของแคเทอร์พิลลาร์ และอีก 18 ปี ที่เชฟรอน ด้านการบริหารโปรแกรมควบคุมการปนเปื้อน ISOCLEAN® นานนับสิบปี และในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภาคสนามระดับหัวกะทิของเชฟรอนในตำแหน่ง ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งด้วยเครื่องเทอร์ไบน์และเครื่องยนต์ลูกสูบ ประสบการณ์ในภาคสนามนี้เองที่สร้างชื่อเสียงให้แก่พอลในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านน้ำมันเทอร์ไบน์ รวมทั้ง ปัญหาของวานิช ไฮดรอลิก เครื่องยนต์ก๊าซ คอมเพรสเซอร์ และเกียร์ พอลเป็นที่ปรึกษาที่คอยให้การช่วยเหลืองานของเชฟรอนและลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลก
ปัญหาเกี่ยวกับวานิชจะแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวทางการป้องกันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว นั่นหมายถึงการเริ่มต้นด้วยการใช้น้ำมันเทอร์ไบน์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดปริมาณการก่อตัวของวานิช และสร้างโปรแกรมบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าดับได้
ผู้เชี่ยวชาญที่คาลเท็กซ์ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดระบบที่ช่วยปกป้องเครื่องจักรของคุณจากคราบวานิช และรับรองว่าเครื่องจักรของคุณจะสามารถสร้างผลผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ - The VARTECH™ Industrial System Cleaner (ISC).
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มีวางจำหน่ายเฉพาะบางประเทศเท่านั้น