ปัจจุบันน้ำมันเครื่องมาตรฐานล่าสุด API CK-4 ได้ถูกวางจำหน่ายในท้องตลาดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการที่จะประเมินผลและตอบคำถามบางข้อที่ยังคงค้างคาใจอยู่
เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเรามีลูกค้าเป็นจำนวนมากจากการฝึกอบรม การสัมมนา และการศึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเราได้มีการทดสอบภาคสนามผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกค้าหลายราย การทดสอบในครั้งนี้พบว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น โดยในลูกค้าบางรายมีการเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์หนึ่งไปใช้อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งในเบอร์ความหนืดเดียวกัน และในบางรายก็มีการเปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่มีความหนืดต่ำกว่า เพื่อเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น
น้ำมันเครื่องมาตรฐานล่าสุด API CK-4 สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์รุ่นเก่า โดยมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดตามมาตรฐาน API และเป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ล่าสุด API CK-4 แต่สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์รุ่นเก่านั่นก็คือ ค่าความหนืด โดยแนะนำให้ใช้เบอร์ความหนืดตามที่ผู้ผลิตเครื่องยนต์ (OEM) กำหนด ได้แก่ SAE 15W-40 โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ.ศ. 2550-2553 สรุปได้ว่าหากรถของคุณยังเป็นเครื่องยนต์รุ่นเก่าควรใช้น้ำมันที่มีความหนืดตรงตามที่ผู้ผลิตกำหนดจะทำให้รถของคุณมีประสิทธิภาพและทนทานต่อปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ดี
สำหรับเจ้าของรถที่เป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ จะมีข้อได้เปรียบในการเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่หลากหลายกว่า ในปัจจุบันผู้ผลิต (OEM) จำนวนมากได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาเครื่องยนต์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ โดยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมทั้งช่วยยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายได้นานขึ้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องมาตรฐาน API CK-4 นับเป็นการช่วยลดต้นทุนที่ดีมาก สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถไม่ควรลืมนั่นคือ ควรปรึกษากับผู้ผลิต (OEM) ของคุณเพื่อทำความเข้าใจก่อนว่าเครื่องยนต์ของคุณเหมาะกับน้ำมันเครื่องตัวไหน และทำการปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเครื่องเพื่อที่คุณจะได้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
น้ำมันเครื่องมาตรฐานล่าสุด API CK-4 มีการพัฒนาสูตรและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดีขึ้นเป็นพิเศษใน 3 ด้าน ได้แก่
การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น (ด้วยเกรดความหนืดที่ต่ำกว่า) ช่วยยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันได้นานขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีเยี่ยม การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ จะช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณได้รับประสิทธิภาพสูงสุดและยังเป็นการช่วยลดต้นทุนในการขนส่งระยะไกลของคุณอีกด้วย
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ข้อกำหนดใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อข้อกำหนดโดยเฉพาะในด้านคุณภาพของน้ำมันเครื่อง นับเป็นเวลาหลายปีที่กฎข้อบังคับต่างๆ มุ่งเน้นไปที่การควบคุมการปล่อยมลพิษ (ไนโตรเจนออกไซด์ และฝุ่นละออง) จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสูตรน้ำมันเครื่อง กฎข้อบังคับเหล่านี้ได้มุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) และการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์และฝุ่นละอองให้เป็นศูนย์ นี่คือเหตุผลที่ผู้ผลิตเครื่องยนต์ต้องการน้ำมันเครื่องสูตรใหม่ที่จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วยเบอร์ความหนืดที่ต่ำกว่า และยังเพิ่มประสิทธิภาพในความทนทานต่อความร้อนที่สูงขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติในเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แม้ว่าข้อกำหนดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) นี้ จะยังคงดำเนินการต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่เราจะยังคงมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงและพัฒนาในด้านนี้ต่อไป
ยังคงมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องสูตรใหม่นี้ ผู้ใช้รถบางรายเข้าใจว่าน้ำมันเครื่องสูตรนี้ใช้ได้กับเครื่องยนต์รุ่นใหม่เท่านั้น ส่วนคนอีกกลุ่มก็เชื่อว่าอาจทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์ลดลง แต่ความจริงก็คือน้ำมันเครื่องสูตรใหม่นี้
ทำให้ผู้ใช้รถมีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้นในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง คุณควรใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจถึงประสิทธิภาพและเกรดความหนืดที่เหมาะกับเครื่องยนต์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ของคุณให้มากที่สุด โดยการทดลองใช้งานกับเครื่องยนต์สักสองสามเครื่องก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ แล้วคุณจะแปลกใจเมื่อเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเครื่องสูตรใหม่นี้ เพราะจะช่วยให้ฟลีตรถของคุณประหยัดต้นทุนได้มากกว่าเดิม
ตลอดระยะเวลา 25 ปี ชอว์นมุ่งเน้นในด้านการวิจัยและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหล่อลื่นสำหรับการใช้งานหนัก เชื้อเพลิง การปล่อยมลพิษ และเครื่องยนต์ต่างๆ และได้ร่วมงานกับเชฟรอนในปี 2556 ชอว์นได้ทำงานกว่า 12 ปีกับการเป็นหัวหน้าด้านวิศวกรรมของเหลวให้กับบริษัทคัมมินส์ นอกจากนี้ ชอว์นใช้เวลา 5 ปีในการทำวิจัยด้านน้ำมันหล่อลื่น เชื้อเพลิง และการปล่อยมลพิษ ในห้องปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติของกระทรวงพลังงานในเมืองโกลเดน รัฐโคโลราโด ที่เชฟรอนชอว์นเป็นวิศวกรอาวุโส มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับใช้งานหนักอย่าง Delo ปัจจุบันชอว์นเป็นประธานฝ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับงานหนัก ASTM ซึ่งได้รับมอบหมายให้พัฒนาสูตรในขั้นตอนสุดท้ายตามข้อกำหนดเฉพาะของน้ำมันเครื่องมาตรฐาน API CK-4 และ FA-4 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปลายปี 2559 and FA-4 specifications that took effect in late 2016.