วิธีเลือกจาระบีให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การรู้วิธีเลือกจาระบีที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ และสามารถช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเงินและเวลา!

คนส่วนใหญ่คิดว่าจาระบีเป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ แท้จริงแล้วมีปัจจัยอีกมากมายที่คุณควรพิจารณาก่อนเลือกใช้จาระบี มีคนจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่าหน้าที่ของจาระบีถูกกำหนดด้วยสีของมัน บทสนทนาทั่วไประหว่างลูกค้าและพนักงานขายก็คือ ลูกค้ามักจะเจาะจงเลือกสีของจาระบี

จากมุมมองทางเทคนิค สีของจาระบีมีหน้าที่บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของสารหล่อลื่นมากกว่าคุณสมบัติอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อจาระบีสีแดงเมื่อใช้ไปได้ซักระยะจาระบีเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือดำแสดงว่าจาระบีเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว หากยึดตามมาตรฐานนี้ก็ถือว่าปลอดภัย ดีกว่าสมมุติฐานที่ว่าการกำหนดสีเป็นแนวทางทางการตลาดที่ผู้ผลิตใช้เพื่อแยกความแตกต่างของจาระบีแต่ละประเภทในผลิตภัณฑ์ของตนเอง

หากสีไม่มีความสำคัญในการเลือกใช้จาระบี แล้วอะไรที่ควรยึดเป็นหลักในการเลือกจาระบีเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณ 

คุณสมบัติ 5 ประการที่ควรนำมาพิจารณา ได้แก่

  • ค่าความแข็งอ่อน NLGI : ตัวบ่งชี้แรกที่จะบอกว่าจาระบีเหมาะสมกับการใช้งานประเภทใดคือ คะแนนค่าความแข็งอ่อนของจาระบีที่ถูกกำหนดขึ้นตามมาตรฐานของสถาบันจาระบีหล่อลื่นแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (National Lubricating Grease Institute หรือ NLGI) การให้คะแนนหมายถึงความแข็งของเนื้อจาระบี ตัวเลขที่สูงกว่าจึงหมายถึงจาระบีที่แข็งกว่า ซึ่งในทางเทคนิคความแข็งอ่อนของจาระบีนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำมันที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจาระบีที่มีปริมาณน้ำมันสูงกว่าจะได้รับคะแนนที่ต่ำกว่า เช่น เบอร์ 00 หรือเบอร์ 000 ในกรณีที่เป็นจาระบีกึ่งของไหล ในสภาพภูมิอากาศเขตร้อน เช่น ตะวันออกกลางหรือแอฟริกา คุณต้องการผลิตภัณฑ์จาระบีที่มีเบอร์สูงๆ เพื่อให้จาระบีมีความคงตัวสูงและไม่เหลวจนเกินไป แต่ในบางครั้งจาระบีดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบางประเภท 
  • ค่าความหนืด: คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผลิตภัณฑ์จาระบีหรือน้ำมันหล่อลื่นใดๆ คือ ความหนืด ความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นแสดงค่าด้วยเบอร์ของ ISO บนบรรจุภัณฑ์ การใช้งานในแต่ละประเภทจะต้องใช้เบอร์ ISO ที่ต่างกันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เต็มที่ การใช้งานในอุปกรณ์ที่มีความเร็วรอบสูงส่วนใหญ่จะใช้จาระบีที่มีค่าความหนืดต่ำ ตัวอย่างเช่น เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่รับงานหนักอาจต้องใช้ ISO 460 ในขณะที่การใช้งานหนักอย่างรถแทรกเตอร์อาจต้องใช้ ISO 320 ส่วนรถบรรทุก ที่มักจะต้องใช้งานความเร็วสูงเหมาะกับ ISO 220 เพื่อให้แบริ่งและเพลาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • สารอุ้มน้ำมัน เป็นสารเพิ่มคุณภาพที่สำคัญที่สุดในจาระบี เนื่องจากทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่คอยกักเก็บน้ำมันไว้ก่อนที่จะปล่อยให้ไหลออกไปยังส่วนประกอบต่างๆ ในจาระบีจะใช้สารเพิ่มคุณภาพประเภทต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น ป้องกันการกัดกร่อน ป้องกันการสึกหรอ ป้องกันสนิมและลดการเกิดออกซิเดชั่น แต่สิ่งสำคัญคือต้องเลือกจาระบีที่มีสารอุ้มน้ำมันแบบเดียวกันกับที่ใช้ก่อนหน้านี้หรือตรงตามความต้องการใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้ากันได้
  • จุดหยด: โดยทั่วไปแล้วจุดหยดจะหมายถึงอุณหภูมิในการใช้งานที่จะทำให้จาระบีเหลวและหมดความคงตัว ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกจาระบีโดยคำนึงถึงจุดหยดของมันซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน เคล็ดลับทั่วไปของผู้ผลิต (OEM) คือการเลือกใช้จาระบีที่มีจุดหยดสูงกว่าการใช้งานถึง 100 องศา เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอุณหภูมิสำหรับการใช้งานเฉพาะอยู่ที่ประมาณ 250 องศา ผู้ผลิต (OEM) จะแนะนำให้ใช้ใช้จาระบีที่มีจุดหยดอยู่ที่ 350 องศา
  • สารเติมแต่ง EP: คุณอาจเคยเห็นฉลาก "EP" บนผลิตภัณฑ์จาระบีบางชนิด ฉลากนี้ย่อมาจาก "Extreme Pressure" หรือ สารรับแรงกดสูง และเป็นจาระบีประเภทที่สามารถใช้ได้กับการใช้งานส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ไม่ควรใช้จาระบีที่มีสาร EP สำหรับแบริ่ง มอเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการกัดกร่อนในกรณีที่ขดลวดของมอเตอร์มีจาระบีมากเกินไป

การคำนึงถึงปัจจัย 5 ประการนี้ จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต (OEM) ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาระบีที่จะให้รายละเอียดที่แน่นอนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานและการใช้งานของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณจะทำงานได้อย่างเหมาะสมตลอดการใช้งาน การเลือกน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ของคุณอาจต้องใช้การวิเคราะห์เล็กน้อย แต่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินทุนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นกำลังคนหรือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและความปลอดภัย

Author image

โดย แดน โฮลด์เมเยอร์ - 22 April 2020

ประวัติผู้เขียน

ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส แดน โฮลด์เมเยอร์ ร่วมงานกับเชฟรอนในช่วง 14 ปีหลัง โดยเค้าได้นั่งควบหลายตำแหน่งนอกเหนือจากการเป็น Industrial and Coolants Brand Manager ในขณะที่เค้าทำงานเป็นวิศวกรน้ำมันหล่อลื่นที่ เชฟรอน ให้กับแบรนด์ เดโล่ และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอื่นๆ ด้วย แดนเป็นบุคคลสำคัญที่คอยช่วยสนับสนุนและบริหารโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับยานพาหนะที่ทำงานบนถนนและในทางสมบุกสมบัน นอกจากนี้แดนยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอบรมที่ Chevron Global Lubricants ตั้งแต่แรกที่ได้เข้าร่วมงานกับบริษัท ก่อนมาทำงานที่เชฟรอน แดนได้ทำงานเป็นวิศวกรภาคสนามที่ Mobil Oil นานกว่า 20 ปี 

(ตั้งแต่ พ.ศ. 2522-2542) หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจาก Missouri-Columbia with a Bachelor of Science in Chemical Engineering

เลือกใช้จาระบีที่เหมาะสม

การเลือกจาระบีที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องเครื่องจักรที่รับงานหนักของคุณจากอุณหภูมิ แรงดัน และการกระแทกอย่างรุนแรง ช่วยยืดอายุการใช้งาน มีความความเชื่อถือได้ และช่วยประหยัดเงินในระยะยาว

ดูผลิตภัณฑ์